ระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ลิเธียม (Battery Energy Storage System – BESS)

การใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ มักมีข้อจำกัดที่สำคัญคือ “การผลิตไม่ต่อเนื่อง” เพราะสามารถผลิตได้เฉพาะช่วงที่มีแสงแดดเท่านั้น ส่งผลให้ช่วงกลางคืนหรือวันที่มีเมฆมาก ระบบไฟฟ้าอาจมีความไม่เสถียรหากไม่มีแหล่งสำรองพลังงานที่เพียงพอเพื่อแก้ปัญหานี้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จึงได้ติดตั้ง ระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ลิเธียม (BESS) ขนาด 1.29 เมกะวัตต์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นแบตเตอรี่ขนาดใหญ่เก็บพลังงานที่ผลิตจากโซลาร์เซลล์ในช่วงกลางวัน และจ่ายไฟกลับเข้าสู่ระบบในช่วงเวลาที่ไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ เช่น กลางคืน หรือตอนที่โหลดพลังงานสูงกว่าการผลิต

📌 จุดเด่นของระบบ BESS ที่ มช.
⚡ พลังงานสำรองที่มั่นคง: ระบบนี้สามารถจ่ายไฟฟ้าได้ต่อเนื่องโดยไม่สะดุด ช่วยรักษาเสถียรภาพของระบบพลังงานภายในมหาวิทยาลัย
❄️ รองรับภาระโหลดหนัก: สามารถจ่ายไฟให้เครื่องปรับอากาศขนาด 12,000 BTU ได้ถึง 140 เครื่อง พร้อมกัน นาน 8 ชั่วโมง
🌙 ผลิตกลางวัน ใช้กลางคืน: ลดการพึ่งพาไฟฟ้าจากภายนอก ในช่วงนอกเวลาแสงอาทิตย์
📉 ลดต้นทุนในระยะยาว: ลดภาระค่าไฟช่วงพีค และส่งเสริมการบริหารจัดการโหลดพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
🌍 หนุนสู่เป้าหมาย Net Zero: การใช้ระบบแบตเตอรี่ร่วมกับโซลาร์เซลล์ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้อย่างเป็นรูปธรรม

🧠 ทำไมระบบ BESS จึงสำคัญ?
ในโลกที่กำลังเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานหมุนเวียน การมีระบบกักเก็บพลังงานที่มีประสิทธิภาพจะเป็นหัวใจสำคัญของการบริหารจัดการไฟฟ้าในองค์กรขนาดใหญ่ เช่น มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล หรือเขตอุตสาหกรรม เพราะช่วยลดความเสี่ยงจากไฟฟ้าดับฉับพลัน และรองรับการขยายตัวของการใช้ไฟฟ้าจากอุปกรณ์อัจฉริยะและยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต
✨ ระบบ BESS ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จึงไม่ใช่เพียงแค่โครงสร้างพื้นฐานทางเทคนิค แต่คือ “รากฐานของระบบพลังงานอัจฉริยะ” ที่เชื่อมโยงเทคโนโลยีกับความยั่งยืนอย่างแท้จริง