การประเมินปริมาณการกักเก็บคาร์บอนของต้นไม้ในพื้นที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พื้นที่ศึกษา: หอศิลปวัฒนธรรม หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ พื้นที่การศึกษาฝั่งสวนดอก มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีเป้าหมายเป็น Carbon Neutrality University ในปี พ.ศ. 2575
ความก้าวหน้าโครงการ
Project : โครงการจัดทำฐานข้อมูลและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์คาร์บอนของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (Carbon Landscape, CMU) โดยโครงการเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการภายใต้โครงการ SODU สำรวจและประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พัฒนาแพลตฟอร์มติดตามผลคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร โดยอิงข้อมูลที่แม่นยำจากการสำรวจคาร์บอนฟุตพริ้นต์ คณะเกษตรศาสตร์ได้ทำโครงการประเมินการกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ในต้นไม้ เพื่อให้เป็นข้อมูลสนับสนุน data ในพื้นที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ฝั่งสวนสัก และ ไร่แม่เหียะ
การดำเนินงานที่ผ่านมา : พื้นที่การศึกษา ฝั่งสวนสัก:
- พื้นที่ทั้งหมด 1,244.09 ไร่ พบไม้ต้นทั้งหมด 96 ชนิด
- ต้นไม้ 13,268 ต้น และ ในพื้นที่ป่ามี 98 ต้น/ไร่ (321 ไร่)
- ปริมาณการกักเก็บคาร์บอนทั้งหมด 24,907.5 tCO2eq คิดเป็น 20.02 ตัน/ไร่
ชนิดที่มีการกักเก็บคาร์บอนมากที่สุดคือ จามจุรี (3,671.0)** สัก (2,464.5) ทองกวาว (551.4) เสลา (443.1) และพะยอม(363.1) ตามลำดับ
การดำเนินงานที่ผ่านมา : พื้นที่การศึกษาฝั่งแม่เหียะ:
- พื้นที่ทั้งหมด 1,409.31 ไร่ พบไม้ต้นทั้งหมด 84 ชนิด
- ต้นไม้ 7,832 ต้น และ และ ในพื้นที่ป่ามี 126 ต้น/ไร่ (267 ไร่)
- ปริมาณการกักเก็บคาร์บอนทั้งหมด 9,147.88 tCO2eq คิดเป็น 6.49 ตัน/ไร่
ชนิดที่มีการกักเก็บคาร์บอนมากที่สุดคือ สัก (461.71)** ประดู่ (169.29) นนทรีป่า (92.98) กระบก (83.24) และทองกวาว (73.73) ตามลำดับ
ความก้าวหน้าโครงการฯ
